ออมเงิน

10 วิธีออมเงินแบบฉบับเร่งรัด ทำได้จริง

10 วิธีออมเงินแบบฉบับเร่งรัด ทำได้จริง

ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ หลาย ๆ คน คงอาจจะประหยัดอดออม เพราะเป็นยุคที่ข้าวยากหมากแพง ข้าวของขึ้นราคาแต่เงินเดือนหรือรายได้ไม่ได้ขึ้นตาม ดังนั้นเรามีวิธีออมเงินแบบฉบับเร่งรัด ทำได้จริงมาแนะนำ ไปดูกันเลย 10 วิธีออมเงินง่าย ๆ 1.ทำกับข้าวกินเองที่บ้าน เพราะถ้าเราไปกินนอกบ้าน นอกจากอาหารจะมีราคาแพงแล้ว ยังต้องจ่ายค่าบริการอีก 10% และภาษี อีก 7% รวม ๆ แล้ว โดนบวกเพิ่มอีก 17% การที่เราทำกับข้าวกินเองนอกจากประหยัดแล้ว ยังสุขภาพดีกว่าเพราะเราสามารถเลือกวัตถุดิบในการทำอาหารได้เองอีกด้วย 2.ออมก่อนใช้ เมื่อได้รายได้มา ควรรีบแบ่งสัดส่วนในการออมไว้เลย และค่อยเอาส่วนที่เหลือมาใช้ และถ้าใช้ไม่หมดก็รีบออมทันที เช่น แบ่งสัดส่วน 50:50 ครึ่งนึงออม ครึ่งนึงใช้จ่าย เป็นต้น เพื่อที่จะทำให้เราไม่ใช้เงินอย่างมือเติบ 3.รู้จักการสะสมคะแทนบัตรส่วนลดต่าง ๆ หรือสมาชิก ผู้เขียนเองจะสมัครสมาชิกท็อปส์ซูเปอร์มาเก็ต เพื่อที่จะซื้อของในราคาที่ถูกกว่า และเมื่อครบ 3 เดือนก็จะได้คูปองเงินสด และคูปองส่วนลด ดีกว่าเราไปซื้อร้านกระจัดกระจาย เราจะไม่ได้ส่วนลด หรือใช้บัตรเครดิตเพื่อสะสมคะแนนแลกส่วนลดเท่ากับคะแนนตอนซื้อของ ทำให้ได้ส่วนลด on top …

10 วิธีออมเงินแบบฉบับเร่งรัด ทำได้จริง Read More »

แต่รู้ไหมว่าประกันออมเงิน คืออะไร มีข้อดียังไง ใครควรซื้อ วันนี้เราจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับประกันออมเงิน พร้อมสรุปข้อดีของการออมด้วยประกัน

ประกันออมเงิน คืออะไร มีข้อดียังไง ใครควรซื้อ

การมีอนาคตทางการเงินที่ดี มักมาจากการมีเงินเก็บ และเงินออมที่มาก ในปัจจุบันกระแสการออมเงิน และทำประกันชีวิต ค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากช่วยให้สามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีแผนสำรองในยามฉุกเฉินได้ แต่รู้ไหมว่าประกันออมเงิน คืออะไร มีข้อดียังไง ใครควรซื้อ วันนี้เราจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับประกันออมเงิน พร้อมสรุปข้อดีของการออมด้วยประกัน เพื่อให้คนที่ต้องการวางแผนการเงิน ทำความเข้าใจ และปรับแผนการเงินให้ดีขึ้น ประกันออมเงิน คืออะไร มีข้อดียังไง ใครควรซื้อ ประกันออมเงิน (Endowment Insurance) คือ สัญญาการประกันภัยที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อมอบความคุ้มครองชีวิตควบคู่ไปกับการบริหารเงินออม โดยผู้เอาประกันเงินออมจะสามารถเลือกระยะการชำระเบี้ยประกันได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว โดยข้อดีของการออมเงิน มีดังต่อไปนี้ ให้ความคุ้มครองชีวิต : หากผู้เอาประกันเสียชีวิตลงภายในระยะเวลาเอาประกันภัย บริษัทประกันจะจ่ายเงินสินไหมทดแทนให้แก่ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ ช่วยออมเงิน : ผู้เอาประกันจะต้องชำระเบี้ยประกันตามกำหนดระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งเงินเบี้ยประกันส่วนหนึ่งจะถูกนำไปลงทุนเพื่อสะสมเงินออม ได้ผลตอบแทนสูง : เงินออมที่สะสมไว้จะได้รับผลตอบแทนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ นำไปลดหย่อนภาษี : เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ นอกจากนี้ ประกันออมเงินยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุ้มครองชีวิต ให้กับตนเองและครอบครัว ต้องการออมเงินสำหรับการวางแผนในอนาคต และได้ผลตอบแทนในระยะยาว อีกทั้งยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษี ช่วยลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้อีกด้วย เรียกได้มีประโยชน์มากมายเลยทีเดียว …

ประกันออมเงิน คืออะไร มีข้อดียังไง ใครควรซื้อ Read More »

สิทธิประโยชน์ดีๆ ของการเป็นสมาชิกและส่งเงินออมสะสมกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) นอกเหนือจากจะได้รับเงินสมทบจากรัฐบาลสูงสุด 100%

ออมอย่างไร ให้ได้บำนาญตลอดชีพ

สิทธิประโยชน์ดีๆ ของการเป็นสมาชิกและส่งเงินออมสะสมกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) นอกเหนือจากจะได้รับเงินสมทบจากรัฐบาลสูงสุด 100% ตามช่วงอายุแล้ว ยังได้รับผลตอบแทนจากการนำเงินไปลงทุนอีกด้วย เมื่อสมาชิกอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิ์รับเงินบำนาญตลอดชีพ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระและสร้างความมั่นคงในวัยเกษียณ โดย กอช. มีหลักเกณฑ์การคำนวณบำนาญ 2 กรณี คือ1. กรณีคำนวณเงินรายเดือนแล้วได้ผลลัพธ์ เกิน 150,000 บาท จะได้รับเงินบำนาญไม่น้อยกว่า 600 บาทต่อเดือน หรือจ่ายตามจำนวนเงินบำนาญได้จริง สูงสุด 7 พันกว่าบาท สมาชิกจะได้รับบำนาญตลอดชีพตามจำนวนผลลัพธ์ที่คำนวณได้ในทุกเดือนตั้งแต่อายุ 60 ปี เป็นต้นไป จนกว่าจะเสียชีวิต 2. กรณีคำนวณเงินรายเดือนแล้วได้ผลลัพธ์น้อยกว่า 150,000 บาท จะได้รับเงินดำรงชีพ 600 บาทต่อเดือน จนกว่าจะครบตามจำนวนเงินออมทั้งหมดที่มีอยู่ (ไม่ได้จ่ายให้จนกว่าจะเสียชีวิต) ดังนั้น หากคุณต้องการมีเงินบำนาญตลอดชีพ ควรเริ่มวางแผนการออมเงินกันเสียตั้งแต่วันนี้เพื่อให้ผลลัพธ์ที่คำนวณได้ไม่น้อยกว่า 600 บาทต่อเดือน โดยหากเริ่มออมตั้งแต่อายุยังน้อย แม้จะส่งเงินออมปีละไม่มาก ก็มีสิทธิ์รับเงินบำนาญขั้นต่ำเดือนละ 600 บาทตลอดชีพแล้วหรือถ้าปีไหนเรามีรายได้มากขึ้น จะส่งเงินออมให้มากขึ้น ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสรับเงินบำนาญจำนวนที่มากขึ้น …

ออมอย่างไร ให้ได้บำนาญตลอดชีพ Read More »

สิทธิประโยชน์ดีๆ ของการเป็นสมาชิกและส่งเงินออมสะสมกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) นอกเหนือจากจะได้รับเงินสมทบจากรัฐบาลสูงสุด 100%

ออมอย่างไร ให้ได้บำนาญตลอดชีพ

สิทธิประโยชน์ดีๆ ของการเป็นสมาชิกและส่งเงินออมสะสมกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) นอกเหนือจากจะได้รับเงินสมทบจากรัฐบาลสูงสุด 100% ตามช่วงอายุแล้ว ยังได้รับผลตอบแทนจากการนำเงินไปลงทุนอีกด้วย เมื่อสมาชิกอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิ์รับเงินบำนาญตลอดชีพ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระและสร้างความมั่นคงในวัยเกษียณ โดย กอช. มีหลักเกณฑ์การคำนวณบำนาญ 2 กรณี คือ1. กรณีคำนวณเงินรายเดือนแล้วได้ผลลัพธ์ เกิน 150,000 บาท จะได้รับเงินบำนาญไม่น้อยกว่า 600 บาทต่อเดือน หรือจ่ายตามจำนวนเงินบำนาญได้จริง สูงสุด 7 พันกว่าบาท สมาชิกจะได้รับบำนาญตลอดชีพตามจำนวนผลลัพธ์ที่คำนวณได้ในทุกเดือนตั้งแต่อายุ 60 ปี เป็นต้นไป จนกว่าจะเสียชีวิต 2. กรณีคำนวณเงินรายเดือนแล้วได้ผลลัพธ์น้อยกว่า 150,000 บาท จะได้รับเงินดำรงชีพ 600 บาทต่อเดือน จนกว่าจะครบตามจำนวนเงินออมทั้งหมดที่มีอยู่ (ไม่ได้จ่ายให้จนกว่าจะเสียชีวิต) ดังนั้น หากคุณต้องการมีเงินบำนาญตลอดชีพ ควรเริ่มวางแผนการออมเงินกันเสียตั้งแต่วันนี้เพื่อให้ผลลัพธ์ที่คำนวณได้ไม่น้อยกว่า 600 บาทต่อเดือน โดยหากเริ่มออมตั้งแต่อายุยังน้อย แม้จะส่งเงินออมปีละไม่มาก ก็มีสิทธิ์รับเงินบำนาญขั้นต่ำเดือนละ 600 บาทตลอดชีพแล้วหรือถ้าปีไหนเรามีรายได้มากขึ้น จะส่งเงินออมให้มากขึ้น ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสรับเงินบำนาญจำนวนที่มากขึ้น …

ออมอย่างไร ให้ได้บำนาญตลอดชีพ Read More »

ด้านการบริหารการเงินส่วนบุคคลมีเรื่องที่ต้องเข้าใจลำดับต้นๆ เลยก็คือ เรื่องของการออมและการลงทุน ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีทั้งความเหมือนและความแตกต่างกัน

วิเคราะห์แนวทางเมื่อไหร่ควรออม เมื่อไหร่ควรลงทุน

สำหรับหลายคนที่กำลังอยู่ในวัยสร้างเนื้อสร้างตัวนั้น ในด้านการบริหารการเงินส่วนบุคคลมีเรื่องที่ต้องเข้าใจลำดับต้นๆ เลยก็คือ เรื่องของการออมและการลงทุน ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีทั้งความเหมือนและความแตกต่างกัน การรู้ว่าเมื่อใดควรออมและเมื่อใดควรเริ่มต้นลงทุนนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง ความหมายของการออมและการลงทุน การออม คือ การกันเงินบางส่วนออกมาจากรายได้ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยนำเงินไปเก็บสะสมทีละเล็กทีละน้อย โดยคนส่วนใหญ่มักจะนำเงินออมไปฝากไว้กับธนาคาร ซึ่งการออมนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการสะสมความมั่งคั่ง ส่วนการลงทุนนั้น เป็นเรื่องที่ต่อยอดจากการออมไปอีกขั้น เป็นการนำเงินออมที่มีอยู่ไปลงทุนหรือเข้าซื้อสินทรัพย์ต่างๆ เช่น การนำเงินไปซื้อหุ้น ซื้อพันธบัตร หรือซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวม เป็นต้น ความแตกต่างของทั้งสองอย่างนี้ คือ การออมจะมีความเสี่ยงต่ำ ดอกเบี้ยที่ได้รับจากการฝากเงินค่อนข้างน้อย เงินต้นไม่มีความผันผวน อีกทั้งสามารถถอนเงินมาใช้ได้ตลอดเวลา ส่วนการลงทุนโดยทั่วไปแล้วจะมีความเสี่ยงสูงกว่าการออม เงินต้นที่ลงทุนอาจมีการขาดทุนได้ แต่ถ้าสามารถลงทุนได้ในระยะยาวแล้วก็สามารถคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยที่จะได้รับสูงกว่าการออม ควรออมอย่างไรและออมไว้ที่ไหนดี ถ้าในปัจจุบันยังไม่มีเงินออมหรือยังออมไม่ได้เท่าที่ต้องการ อาจเริ่มต้นสำรวจ 2 ปัจจัยหลัก ที่ส่งผลให้สามารถออมได้มากขึ้นนั่นก็คือ การเพิ่มรายได้และการลดค่าใช้จ่าย ซึ่งอาจเริ่มต้นด้วยการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย หรือการกำหนดงบประมาณในแต่ละเดือน และเมื่อสามารถกันเงินมาออมได้แล้ว อาจเลือกเปิดบัญชีธนาคารแยกออกมาจากบัญชีที่มีไว้เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จะได้เห็นอย่างชัดเจนว่าเงินส่วนไหนเป็นเงินออม สำหรับผู้ที่เริ่มต้นออมนั้น เป้าหมายการออมที่สำคัญลำดับแรก คือ การมีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน ซึ่งควรมีเงินจำนวนนี้ไม่น้อยกว่า 3 เท่าของค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน เงินสำรองเผื่อฉุกเฉินนี้มีไว้ใช้จ่ายในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เงินส่วนนี้เป็นเงินออมที่ต้องมีก่อนเริ่มลงทุน และควรเป็นเงินออมที่มีสภาพคล่องสูง ต้องพร้อมนำเงินออกมาใช้ได้ตลอดเวลา …

วิเคราะห์แนวทางเมื่อไหร่ควรออม เมื่อไหร่ควรลงทุน Read More »

10 วิธีออมเงินแบบฉบับเร่งรัด ทำได้จริง

10 วิธีออมเงินแบบฉบับเร่งรัด ทำได้จริง

ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ หลาย ๆ คน คงอาจจะประหยัดอดออม เพราะเป็นยุคที่ข้าวยากหมากแพง ข้าวของขึ้นราคาแต่เงินเดือนหรือรายได้ไม่ได้ขึ้นตาม ดังนั้นเรามีวิธีออมเงินแบบฉบับเร่งรัด ทำได้จริงมาแนะนำ ไปดูกันเลย 10 วิธีออมเงินง่าย ๆ 1.ทำกับข้าวกินเองที่บ้าน เพราะถ้าเราไปกินนอกบ้าน นอกจากอาหารจะมีราคาแพงแล้ว ยังต้องจ่ายค่าบริการอีก 10% และภาษี อีก 7% รวม ๆ แล้ว โดนบวกเพิ่มอีก 17% การที่เราทำกับข้าวกินเองนอกจากประหยัดแล้ว ยังสุขภาพดีกว่าเพราะเราสามารถเลือกวัตถุดิบในการทำอาหารได้เองอีกด้วย 2.ออมก่อนใช้ เมื่อได้รายได้มา ควรรีบแบ่งสัดส่วนในการออมไว้เลย และค่อยเอาส่วนที่เหลือมาใช้ และถ้าใช้ไม่หมดก็รีบออมทันที เช่น แบ่งสัดส่วน 50:50 ครึ่งนึงออม ครึ่งนึงใช้จ่าย เป็นต้น เพื่อที่จะทำให้เราไม่ใช้เงินอย่างมือเติบ 3.รู้จักการสะสมคะแทนบัตรส่วนลดต่าง ๆ หรือสมาชิก ผู้เขียนเองจะสมัครสมาชิกท็อปส์ซูเปอร์มาเก็ต เพื่อที่จะซื้อของในราคาที่ถูกกว่า และเมื่อครบ 3 เดือนก็จะได้คูปองเงินสด และคูปองส่วนลด ดีกว่าเราไปซื้อร้านกระจัดกระจาย เราจะไม่ได้ส่วนลด หรือใช้บัตรเครดิตเพื่อสะสมคะแนนแลกส่วนลดเท่ากับคะแนนตอนซื้อของ ทำให้ได้ส่วนลด on top …

10 วิธีออมเงินแบบฉบับเร่งรัด ทำได้จริง Read More »

ผู้เขียนพบว่ามีแนวคิดที่น่าสนใจหลายอย่าง ในบทความนี้ จึงขอเลือกมาแบ่งปันแนวคิดการออมเงินแบบญี่ปุ่น สไตล์โยโกยามะให้กับผู้อ่าน 5 ข้อ คือ

แนวคิดการออมเงินแบบญี่ปุ่น สไตล์โยโกยามะ

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนได้อ่านหนังสือ “90 วัน ออมเปลี่ยนชีวิต” ซึ่งเป็นหนังสือแปลจากภาษาญี่ปุ่นของสำนักพิมพ์ ส.ส.ท. บนหน้าปกมีข้อความว่า “สำหรับครอบครัว “คนธรรมดา” ที่ไม่มีโอกาสรวยทางลัด” และ “พิสูจน์แล้วจาก 3,800 ครอบครัว ที่ปลดหนี้ได้จริง !!!” ผู้เขียนพบว่ามีแนวคิดที่น่าสนใจหลายอย่าง ในบทความนี้ จึงขอเลือกมาแบ่งปันแนวคิดการออมเงินแบบญี่ปุ่น สไตล์โยโกยามะให้กับผู้อ่าน 5 ข้อ คือ 1.เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน 1 ปี โดยทั่วไปเรามักจะได้ยินว่าเราควรมีเงินเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนของเรา หรือ 12 เท่าหากรายได้ของเราไม่แน่นอน แต่คุณโยโกยามะ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ได้ฟันธงเลยว่าดีที่สุดคือให้เก็บ 1 ปีไปเลย และเป็นเงินเท่ากับรายได้ 1 ปี (ไม่ใช่รายจ่าย) เพื่อให้อุ่นใจว่าเราจะมีเงินพอในการใช้ชีวิตและใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะแย่ขนาดไหนก็ตาม 2.วิธีออมเงินที่ง่ายที่สุดคือลดรายจ่าย หลายคนอาจจะเคยลองหาวิธีทำให้ตนเองมีเงินเก็บมากขึ้น โดยการหางานพิเศษทำบ้าง ลดค่าใช้จ่ายบ้าง หรือทำทั้งสองวิธีควบคู่กันไป คุณโยโกยามะเฉลยว่า วิธีที่ง่ายและยั่งยืนที่สุด คือ การลดค่าใช้จ่าย ใครๆ ก็ทำได้และทำได้อย่างต่อเนื่อง …

แนวคิดการออมเงินแบบญี่ปุ่น สไตล์โยโกยามะ Read More »

ในบทความนี้ขอกล่าวถึงการออมเงิน หรือ “เงินออม” หากมีเงินเก็บแล้วจะช่วยให้การใช้ชีวิต และสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น สร้างฝันที่เป็นจริงได้

3 STEP ฝึกออมเงินง่าย ๆ แบบฉบับมนุษย์เงินเดือน

“การมีเงินออม” ทำให้ชีวิต และความเป็นอยู่ดีขึ้นจริงหรือ?ในบทความนี้ขอกล่าวถึงการออมเงิน หรือ “เงินออม” หากมีเงินเก็บแล้วจะช่วยให้การใช้ชีวิต และสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น สร้างฝันที่เป็นจริงได้ ไม่ว่าจะมีบ้าน มีรถ มีกินมีใช้ สร้างความสะดวกสบายในชีวิตได้มากขึ้น และการมีเงินออมยังถือเป็นปัจจัยสำคัญในอนาคตสำหรับมนุษย์เงินเดือน หรือคนที่มีรายได้ประจำ หากคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินออม นั่นหมายความว่าคุณจะมีเงินเก็บในยามฉุกเฉิน และมีเงินเก็บในวัยเกษียณจะช่วยให้ชีวิตมีความมั่นคงยิ่งขึ้น “เงินออม” คือ เงินรายได้ทั้งหมดที่เหลือจากการใช้จ่ายประจำและใช้จ่ายส่วนตัว หรือด้วยหลัก การด้านการเงินของการแบ่งเก็บเงินจาก 3 รายได้ ดังต่อไปนี้ รายได้สำหรับไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 50% รายได้สำหรับไว้ใช้จ่ายส่วนตัว 30% รายได้สำหรับเพื่อการออม 20% ดังนั้น การที่เราจะมีเงินออม หรือเงินเก็บจากการออมเงินได้นั้น จึงไม่ได้เกิดขึ้นได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ แต่เป็นการสร้างวินัยในการใช้จ่ายเงินโดยการวางเป้าหมายอย่างมีความมุ่งมั่น และเป็นเรื่องที่น่าท้าทาย อย่างมากสำหรับมนุษย์เงินเดือนทุกคนก็ว่าได้ เพราะด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่เกิดขึ้น ความฝันที่จะมีเงินเก็บของมนุษย์เงินเดือนจึงไม่ใช่เรื่องง่ายดาย เพราะเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็แทบเหลือไม่พอใช้อยู่แล้ว เรื่องเงินเหลือไว้ออมจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ทั้งค่าครองชีพที่สูง ค่าน้ำมันที่มีแนวโน้มแพงขึ้น จึงอาจทำให้หลายคนมองว่าเป็นเรื่องที่ไกลเกินฝัน แต่เรามีเคล็ดลับการเก็บเงิน 3 STEP ได้ง่าย ๆ ฝึกออมเงินกันตั้งแต่วันนี้ ฝันให้ไกลไปให้ถึงแบบมนุษย์เงินเดือน …

3 STEP ฝึกออมเงินง่าย ๆ แบบฉบับมนุษย์เงินเดือน Read More »

การทำงานหนักอาจไม่ช่วยให้คุณมีความสุขได้ แต่การออมเงินจะทำให้คุณทั้งมีความสุข และมีความมั่นคงในชีวิตได้นะคะ สำหรับมนุษย์เงินเดือนหลาย ๆ

5 ขั้นตอนออมเงินแบบง่ายๆ สไตล์มนุษย์เงินเดือน

การทำงานหนักอาจไม่ช่วยให้คุณมีความสุขได้ แต่การออมเงินจะทำให้คุณทั้งมีความสุข และมีความมั่นคงในชีวิตได้นะคะ สำหรับมนุษย์เงินเดือนหลาย ๆ ท่านอาจจะมองว่า การทำงานหนักทุกวัน จะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ใช้จ่ายแบบไม่คิดเหมือนเดิม แล้วอย่างนี้คุณคิดว่า คุณจะมีความสุขหรือมีชีวิตที่ดีขึ้นหรือไม่ สำหรับการออมเงินทุกครั้งไม่ว่าจะได้มากหรือน้อยก็ตาม เงินที่คุณเก็บออมไว้ สามารถนำมาเป็นเงินออมไว้ในการลงทุนเพิ่มโอกาสทางการเงิน หรือนำมาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินก็สามารถทำได้เช่นกัน เมื่อรู้สิ่งดี ๆ จากการออมแล้ว มัวรออะไรล่ะคะ มาออมเงินแบบง่ายสไตล์คุณกันดีกว่า ขั้นตอนการออมเงิน เพื่อความมั่นคงของชีวิต 1. เลิกโทษตัวเอง แล้วตัดสินใจเริ่มซะที เมื่อเกิดปัญหาทางการเงิน หลายคนอาจเอาแต่โทษตัวเองว่าใช้จ่ายไม่ระวัง รายได้เข้ามาน้อยเหลือเกิน รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย และปัญหาการใช้จ่ายเยอะ แต่ไม่เคยคิดที่จะปรับปรุงตัวเลย พอเงินเดือนเข้ามาก็ใช้จ่ายแบบไม่คิดอีก ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ยิ่งทำงานหลายปี เงินเดือนก็ยิ่งไม่พอใช้ในที่สุด ก็ต้องไปขอกู้หนี้ยืมสิ้นกับคนอื่น ๆ หรือกับธนาคารต่างๆเพื่อนำเงินส่วนนั้นมาปิดช่องโหว่ในแต่ละเดือน จนทำให้ภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้นในที่สุด คุณก็ไม่สามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ มีแต่หนี้สินมากมาย การเลิกโทษตัวเองเกี่ยวกับการใช้เงิน แล้วเปลี่ยนมาเริ่มต้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินของตนเองใหม่ อาจจะดีกว่าที่คุณมัวโทษตัวเอง แล้วกลับไปทำอีกเช่นเดิม 2. ออมเงินให้ได้ผล เริ่มจาก 10% สิคะ การออมเงินไม่ได้กำหนดจำนวนเงินไว้ คุณเองเป็นผู้กำหนดว่าคุณจะออมเงินเท่าไหร่ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย เงินออมก็คือเงินของคุณดังนั้น …

5 ขั้นตอนออมเงินแบบง่ายๆ สไตล์มนุษย์เงินเดือน Read More »

การบริหารเงินออมมีหลายวิธีที่จะช่วยให้เงินออมของคุณงอกเงยขึ้นทั้งจากการกระทำภายนอกและภายในซึ่งได้แก่พลังใจ พลังความคิด ที่จะทำให้การบริหารเงินออม

บริหารเงินออมให้งอกเงยด้วยตัวคุณเอง

การบริหารเงินออมมีหลายวิธีที่จะช่วยให้เงินออมของคุณงอกเงยขึ้นทั้งจากการกระทำภายนอกและภายในซึ่งได้แก่พลังใจ พลังความคิด ที่จะทำให้การบริหารเงินออมของคุณไปถึงจุดหมายที่ต้องการ โดยมี 10 วิธีที่จะช่วยคุณไปถึงจุดหมายด้วยตัวของคุณเอง ส่วนวิธีการจะมีอะไรบ้างนั้นมาติดตามเลยค่ะ 10 แนวทางบริหารเงินออมให้งอกเงยด้วยตัวคุณเอง 1.เน้นประหยัด อะไรประหยัดได้ก็ควรประหยัด การประหยัดนับว่าเป็นการบริหารเงินที่ดีที่หลายคนใช้แล้วเห็นผลเป็นมูลค่าเงินทันที เช่น ประหยัดค่าโดยสารจากนั่งรถแท็กซี่มาเป็นรถโดยสารประจำทางจะช่วยเซฟเงินขึ้นมาได้อีกจำนวนหนึ่ง เราควรสร้างนิสัยแห่งการประหยัดให้เป็นนิสัยเพื่อจะได้ไม่มานั่งเสียใจว่าทำไม่เราถึงเป็นคนที่ไม่รู้จักประหยัดไม่รู้จักบริหารการเงิน ถึงแม้จะเป็นเงินเล็กน้อยแต่ถ้าประหยัดทุกวันก็สามารถมีเงินเหลือเก็บได้มากอยู่ 2.ออมเงินให้ได้ตามเป้าหมาย ทุกสิ่งหากมีเป้าหมายและเราทำได้จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี เช่น บางคนตั้งเป้าหมายว่าจะออมสำหรับให้พอค่าใช้จ่าย 3-6 เดือน และก็ทำได้ถือว่าเป้าหมายบรรลุ แต่อาจมีหลายคนที่ยังทำได้ไม่ถึงเป้าหมายแต่ถ้าได้เริ่มต้นอย่างมีวินัยก็เชื่อว่าจะไปถึงเป้าหมายเช่นกัน และควรตั้งใจที่จะออมไปทุกเดือนเพราะเงินออมจะช่วยคุณได้ในหลายเรื่อง 3.มองหาทางเลือกการลงทุนอื่น นำเงินออมที่เหลือมาเลือกลงทุน เช่น เงินฝากประจำ กองทุนรวม หลายคนเตือนว่าการลงทุนในกองทุนรวมมีความเสี่ยง แต่ก็อย่าวิตกจนเกินไป เพราะมีกองทุนรวมบางประเภทที่มีความปลอดภัยเหมือนฝากเงินธนาคาร ลองศึกษาข้อมูลดูก่อน 4.หาความรู้อยู่เสมอ เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน คุณควรหาความรู้อยู่เสมอ ซึ่งมีวิธีหาความรู้อย่างง่าย ๆ มากมาย ไม่ว่าจะหาความรู้ด้วยตนเองหรือสอบถามผู้มีประสบการณ์ ล้วนมีส่วนช่วยให้คุณได้ข้อมูลความรู้เพิ่มขึ้น และลองใคร่ครวญข้อมูลเพื่อชั่งน้ำหนักวิเคราะห์ด้วยตนเองก่อนแล้วจึงตัดสินใจว่าจะลงทุนหรือไม่ 5.อดทนเพื่อรอโอกาส โอกาสในการลงทุนไม่ได้มีหนเดียว คุณมีโอกาสหลายครั้งเว้นเสียแต่ว่าคุณจะปล่อยโอกาสให้ผ่านเลยไป การนำเงินไปลงทุนที่ยังไม่ได้คิดรอบด้านอาจจะทำให้คุณเสียทั้งเงินและเวลา ดังนั้น จงศึกษาให้ดีก่อนที่จะลงทุน คำนึงถึงผลได้ผลเสีย ของการลงทุนแต่ละแห่ง แล้วนำมาคัดสรรอีกทีว่าควรจะลงทุนประเภทใดจึงจะเหมาะสมและมีรายได้งอกเงย 6.กระจายความเสี่ยงในการลงทุน การลงทุนในบ้านเรามีหลายประเภทคุณอาจเลือกลงทุนในหลักทรัพย์หลาย ๆ …

บริหารเงินออมให้งอกเงยด้วยตัวคุณเอง Read More »

Scroll to Top