การมีปัญหาทางการเงินหรือเป็นหนี้สินไม่ได้แปลว่าเราล้มเหลวทางการเงินเสมอไป เพราะในบางครั้ง ความจำเป็นในเรื่องต่าง ๆ อย่างค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบ้าน ค่าเทอมลูก หรือค่าการดำเนินธุรกิจก็ทำให้เราเป็นหนี้และมีปัญหาทางการเงินให้หนักใจ ดังนั้น เมื่อมีเหตุจำเป็นต้องรีบใช้เงินสดทันที การสมัครสินเชื่อออนไลน์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
เพราะนอกจากจะได้เงินเร็วแล้ว วงเงินในการขอสินเชื่อบางเงื่อนไขยังจะได้รับเงินหลายเท่าของเงินเดือนหรือมูลค่ของสินทรัพย์ที่เรานำมาขอสินเชื่อ และเพื่อช่วยให้ทุกคนแก้ปัญหาทางการเงินได้อย่างถูกต้อง ศรีสวัสดิ์นำเคล็ดลับการเตรียมตัวเพื่อสมัครขอสินเชื่อออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพมาฝากกัน รับรองได้ว่า อ่านจบพร้อมทำตาม ขอผ่านได้ในรอบเดียวแน่นอน ว่าแต่จะเป็นอย่างไร ตามไปดูกัน
ทำความเข้าใจกับสินเชื่อกันก่อน
แต่ก่อนที่จะไปดูว่าเราจะสมัครสินเชื่อออนไลน์ให้ผ่านได้อย่างไรนั้น เรามารู้จักสินเชื่อและเข้าใจสินเชื่อประเภทต่าง ๆ กันก่อน เพราะถือเป็นสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจให้ดีก่อนขอสินเชื่อทุกครั้ง เพราะหากเข้าใจไม่ถูกต้อง การขอสินเชื่อก็อาจให้โทษมากกว่าประโยชน์ต่อการเงินของเราก็เป็นได้ ว่าแล้วก็ตามไปดูกันต่อเลย
“สินเชื่อ” คืออะไร?
หากพูดให้เข้าใจง่าย ๆ นั้น สินเชื่อก็คือการกู้ยืมเงินประเภทหนึ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายที่สามารถทำเรื่องขอได้จากธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ โดยเงื่อนไข วงเงิน และอัตราดอกเบี้ยในการสมัครสินเชื่อออนไลน์รวมถึงทางสาขานั้นจะแตกต่างกันออกไปตามนโยบายของธนาคารและสถาบันการเงินนั้น ๆ
บางแห่งอาจถือสิทธิ์เป็นผู้กำหนดอัตราดอกเบี้ยและวงเงินเองเท่านั้น ในขณะที่บางแห่งเราสามารถเจรจาและต่อรองเพื่อเลือกอัตราดอกเบี้ยที่ตนเองจ่ายไหวได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว วงเงินที่จะได้รับการอนุมัติตามบางเงื่อนไขหรือตามที่ได้เจรจากับทางบริษัทนั้นสามารถให้เงินสดกับผู้สมัครสินเชื่อสูงกว่าเงินเดือนหรือตามสินทรัพย์ที่เรานำมาค้ำประกันได้หลายเท่า
เมื่อสมัครผ่านตามขั้นตอนเรียบร้อย ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เราไปขอสมัครสินเชื่อออนไลน์จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่เราระบุไว้ ซึ่งเมื่อได้เงินใช้มาแล้ว เราก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยตามที่เราตกลงกับสถาบันการเงินเอาไว้ โดยเราสามารถเลือกผ่อนชำระในอัตราที่เท่ากันทุกงวด หรือเลือกชำระเงินเต็มจำนวนโดยปราศจากดอกเบี้ยก็ได้ ซึ่งหลัก ๆ แล้ว การขอสินเชื่อในประเทศไทยสามารถแบ่งได้ตามวัตถุประสงค์การใช้ได้ 3 ประเภทดังนี้
- สินเชื่อเพื่อการบริโภค หรือ สินเชื่อส่วนบุคคลที่สถาบันการเงินปล่อยออกมาเพื่อให้บุคคลนำมาใช้เพื่อบริโภค เช่น บัตรกดเงินสด บัตรเครดิต
- สินเชื่อเพื่อการลงทุน หรือ การขอสินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจ เช่น ลงทุนกิจการ เป็นต้น
- สินเชื่อเพื่อการค้า หรือสินเชื่อที่ขอไปเพื่อนำเงินทุนไปใช้เพื่อหมุนเวียนในการทำธุรกิจ
นอกจากนี้ สินเชื่อยังสามารถแบ่งประเภทออกได้อีกมากมาย เช่น “รถแลกเงิน” “บ้านแลกเงิน” หรือ “สินเชื่อเพื่อการเกษตร” ซึ่งเป็นสินเชื่อที่นำทรัพย์สินประเภทต่าง ๆ มาค้ำเพื่อแลกเงินสดไปใช้ตามจุดประสงค์ที่เราต้องการในวงเงินที่ค่อนข้างสูง ซึ่งโดยส่วนใหญ่เราสามารถนำทรัพย์สินเหล่านี้ไปใช้งานขณะกำลังขอสินเชื่อได้อีกด้วย
3 วิธีเตรียมตัวสมัครสินเชื่อออนไลน์ให้ขอผ่านตั้งแต่รอบแรก
รู้จักกับประเภทของสินเชื่อไปแล้ว หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับการ “ขอสินเชื่อไม่ผ่าน” และยังคงสงสัยจนถึงทุกวันนี้ว่า การขอสินเชื่อแต่ละครั้งต้องพิจารณาและทำความเข้าใจส่วนไหนถึงจะได้รับการอนุมัติ โดยศรีสวัสดิ์ขอให้คำตอบแบบนี้ว่า สถาบันการเงินและธนาคารต้องพิจารณาและตรวจสอบรายละเอียดจากหลาย ๆ องค์ประกอบของผู้ขอสินเชื่อเพื่อทำการอนุมัติสินเชื่อในแต่ละครั้ง
ซึ่งการพิจารณาในส่วนดังกล่าวเป็นเรื่องที่แต่ละบุคคลต้องคุยรายละเอียดกับสถาบันการเงินเป็นกรณีไป แต่ในวันนี้ศรีสวัสดิ์จะมาบอก 3 เคล็ดลับการเตรียมตัวสมัครสินเชื่อที่จะช่วยให้สถาบันการเงินอนุมัติผ่านได้ง่ายขึ้น สามารถใช้ได้ทั้งสมัครสินเชื่อออนไลน์หรือไปสมัครได้ตามสาขาทั่วไป หากอยากรู้ว่าควรเตรียมตัวเรื่องใดบ้างก็ไปดูพร้อมๆ กับเราได้เลย
1. ประเมินตัวเองก่อน
ก่อนจะสมัครสินเชื่อลองหันกลับมามองดูสักนิดว่า ว่าตอนนี้สภาพคล่องทางการเงินของเราเป็นอย่างไร และเรามีนิสัยการใช้จ่ายเป็นแบบไหน ซึ่งก่อนขอสินเชื่อทุกครั้ง สถาบันการเงินจะทำการตรวจสอบประวัติการใช้เงินก่อนเสมอ หากเรามีภาระกับค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า 40% ของรายได้ทั้งหมด เราเองก็มีสิทธิ์ที่จะโดนสถาบันการเงินและธนาคารปฏิเสธการอนุมัติสินเชื่อได้
ที่สำคัญ นอกจากประวัติทางการเงินแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องศึกษาก่อนสมัครสินเชื่อใด ๆ คงหนีไม่พ้นความสามารถและกำลังในการชำระหนี้สินในแต่ละเดือน โดยหากเราไม่พิจารณาส่วนนี้ให้ดี และไม่มีกำลังมากพอที่จะชำระหนี้สินในแต่ละเดือน เราอาจมีแนวโน้มที่จะทำธุรกรรมในครั้งต่อ ๆ ไปยากมากขึ้นกับการขอสินเชื่อในครั้งต่อๆ ไปด้วยนั่นเอง
2. พิจารณาหนี้ที่ตัวเองมี
การแสดงให้สถาบันการเงินและธนาคารเห็นว่า เรามีการจัดการหนี้สินที่ดีจะช่วยให้การขอสินเชื่อในทุก ๆ ครั้งผ่านนั้นง่ายกว่าที่คิด โดยเริ่มแรก ศรีสวัสดิ์อยากให้ลองสำรวจก่อนว่า ยอดหนี้ในปัจจุบันนี้มีเกิน 30% หรือไม่ ซึ่งหากถึงหรือปริ่ม ๆ ตัวเลขนี้แล้วก็ไม่ควรสมัครสินเชื่อใด ๆ เพิ่ม เพราะลองคิดดูง่าย ๆ ว่า การขอสินเชื่อนั้นไม่ใช่แค่การจ่ายดอกเบี้ยในแต่ละเดือนเท่านั้น แต่อย่าลืมว่า เราเองก็ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องใช้เงินจ่ายเช่นกัน
ถ้าหากตอนนี้ค่าใช้จ่ายรวมหนี้สินที่มีในมือนั้นเกิน 40% ของรายได้ สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่าการสมัครสินเชื่อออนไลน์หรือสินเชื่อใด ๆ ให้ผ่านนั้นควรจะเป็นเรื่องของการจัดการหนี้ก้อนต่าง ๆ ก่อน เพราะหากเราชำระหนี้ล่าช้าอยู่บ่อยครั้ง หรือมีภาระในการผ่อนหนี้สินจำนวนมากก็จะทำให้เราดูเป็นลูกหนี้ที่ไม่มีประสิทธิภาพและขอสินเชื่อไม่ผ่านในที่สุด ลองคิดดูง่าย ๆ
หากเราให้ใครยืมเงินและเขาคนนั้นมีประวัติจ่ายช้า หรือ มีประวัติ “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” อยู่บ้าง เราก็คงรู้สึกว่า คน ๆ นั้นดูเป็นคนไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ ดังนั้น หากพบว่า ตัวเองมีหนี้ก้อนไหนที่กำลังจะทำให้เราติดบัญชีดำ หรือ กำลังจะทำให้เรามีประวัติค้างจ่ายก็ควรรีบเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อน เพราะหากไม่รีบจัดการ อย่าว่าแต่สมัครสินเชื่อเลย เราเองก็อาจจะเป็นหนี้ก้อนโตและหาทางออกไม่ได้ยิ่งกว่าเดิมก็เป็นได้
3. เตรียมเอกสารดี มีชัยไปกว่าครึ่ง!
หากตรวจสอบความสามารถและกำลังตัวเองแล้วว่า เราสามารถจ่ายหนี้ก้อนใหม่ได้และจะไม่กระทบต่อปัจจัยอื่น ๆ สิ่งสุดท้ายที่เราควรทำ คือ ติดต่อไปยังสถาบันการเงินที่เราต้องการจะสมัครขอสินเชื่อเพื่อสอบถามถึงข้อมูลหลัก ๆ เหล่านี้
ในการขอสินเชื่อแต่ละครั้งต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และถ้าหากเราไม่มีเอกสารนั้น ๆ เราสามารถใช้เอกสารใดแทนได้ไหม ต้องใช้อะไรค้ำประกันหรือไม่ หากไม่ แล้วเราต้องใช้อะไรประกันการจ่ายหนี้ของตัวเอง บอกเล่าความจำเป็นและเงื่อนไขในสภาพคล่องทางการเงิน เช่น ตอนนี้คุณมีค่าใช้จ่ายรวมหนี้สินมากกว่า 40% แต่ตอนนี้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน ทางสถาบันการเงินมีนโยบายช่วยเหลือได้อย่างไรสอบถามช่องทางการขอสินเชื่อว่าเป็นแบบไหน แล้วกลับมาคุยกับตัวเองว่า ช่องทางในการขอสินเชื่อแบบใดเหมาะกับตนเองมากที่สุด ในปัจจุบันนี้หลาย ๆ สถาบันการเงินได้มีการเปิดให้เราสมัครสินเชื่อออนไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกความจำเป็นโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางให้วุ่นวาย
โดยคำถามที่เราได้รวบรวมมาให้ เป็นคำถามพื้นฐานที่นอกจากจะเป็นการช่วยให้เราได้เตรียมตัวในการขอสินเชื่อให้ผ่านแล้ว คำถามเหล่านี้ยังช่วยให้เราตรวจสอบตัวเองอีกรอบด้วยว่า “เราไหวและพร้อมจริงหรือไม่” ซึ่งหากสอบถามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ศรีสวัสดิ์ขอเน้นย้ำว่า ให้สอบถามรายละเอียดเรื่องเอกสารให้ละเอียดที่สุด ซึ่งเอกสารในการขอสินเชื่อแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกันไปตามจุดประสงค์และประเภทของสินเชื่อ โดยเอกสารในการขอสินเชื่อนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเอกสารเหล่านี้จะเป็นตัวบ่งบอกความน่าเชื่อถือของเราและถือเป็นตัวตัดสินว่าสถาบันการเงินจะอนุมัติสินเชื่อให้เราได้หรือไม่เลยทีเดียว เพราะฉะนั้น อย่าพลาด!
เรียบเรียงบทความโดย boarddung.com
