หุ้นเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในระยะยาว เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ๆ อันนี้เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว แต่ทำไมหนอทำไม ซื้อหุ้นทีไรขาดทุนทุกที ซื้อปุ๊บลงปั๊บ

ทำไม? ซื้อหุ้นแล้วขาดทุนทุกที

หุ้นเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในระยะยาว เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ๆ อันนี้เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วแต่ทำไมหนอทำไม ซื้อหุ้นทีไรขาดทุนทุกที ซื้อปุ๊บลงปั๊บ ขายปั๊บขึ้นปุ๊บ อะไรกันนี่ ?บางรายหนักข้อถึงกับหมดเนื้อหมดตัวกันเลยทีเดียว ได้แต่คิดแล้วก็สงสัยว่า ไหนบอกว่าหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด…

สาเหตุสำคัญที่ซื้อหุ้นแล้วมักขาดทุน

1. ไม่ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

2. ซื้อในจังหวะที่ผิด

3. หวังผลตอบแทนสูงระยะสั้นหรือที่เรียกว่าชอบ "เก็งกำไร"

โดยไม่มีความรู้ด้าน “เทคนิคอล” เห็นหุ้นตัวไหนนิยมหรือมาแรง ก็แห่ไปตามโดยไม่สนพื้นฐานหรือเทคนิคอลเลยว่าราคามันเหมาะสมเข้าซื้อหรือไม่
ผมนั่งค้นคว้าหลักการลงทุนในหุ้นจากบรรดาเซียนทั้งหลายพบว่า ปัญหาหลักของนักลงทุนมือใหม่คือ อยากรวยเร็วจากตลาดหุ้น มักไม่พอใจกับผลตอบแทน 4-5% ต่อปี (ซึ่งสูงกว่าผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยงต่ำทุกประเภท) แต่มักจะฝันถึงกำไรระดับ 50% – 100% ยันถึง 500% และ 1000% โดยเก็งกำไรระยะสั้นจากหุ้นที่ขึ้นลงผันผวนรายวันแทน
ความเชื่อผิด ๆ อย่างหนึ่งคือมักจะหาวิธีทำเงินระยะสั้นด้วยการเล่นรอบ ขายหุ้นตัวนั้น มาซื้่อหุ้นตัวนี้ และคิดว่าหากทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เดือน ๆ นึงทำกำไรสัก 5-10% รวมทั้งปีก็ปาไป 60 -120% แล้ว…
แต่ความจริงคือ คุณไม่ได้ซื้อหุ้นเก็งกำไรได้ถูกตัวทุกครั้ง (ขนาดเซียนกราฟยังทำไม่ได้เลย) มีเซียนหุ้นบอกว่า 90% ของการลงทุนในหุ้นด้วยการเก็งกำไรจากราคาหุ้นขึ้นลงรายวัน โดยที่ไม่อิงกับพื้นฐานของธุรกิจตามความเป็นจริง แม้ระยะสั้นจะทำกำไรได้ดีในบางครั้ง แต่ท้ายที่สุดกลับได้ผลตอบแทนน้อยกว่า การลงทุนระยะยาว
การเก็งกำไรในตลาดหุ้น หรือผลตอบแทนส่วนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงจากผลตอบแทนที่แท้จริงของตลาดหุ้น จัดเป็น “Zero Sum Game” หมายถึง ถ้ามีคนนึงขายหุ้น ก็ต้องมีคนนึงซื้อหุ้น และเมื่อมีคนนึงได้กำไร อีกคนก็ต้องขาดทุนเสมอ

หากคุณลงทุนในหุ้นแล้วมีพฤติกรรมเหล่านี้ ควรหยุดซื้อขาย

แล้วพิจารณาตัวเองใหม่ว่าเหมาะสมกับการลงทุนในหุ้นหรือไม่ คือ

1. ตอบไม่ได้ว่าซื้อหุ้นตัวนี้เพราะอะไร

2. เปิดดูหุ้นที่ซื้อตลอดเวลาทั้งวันทำการซื้อขาย

3. ขาดทุนด้วยเหตุผลเดิม ๆ

ใช่ครับหากมีอาการข้างต้น มันคือการเก็งกำไรโดยไม่มีหลักการใด ๆ เลย เพราะเวลาจะซื้อหุ้นตัวหนึ่ง ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ซื้อเพราะอะไร ธุรกิจทำอะไร ผลประกอบการน่าสนใจแค่ไหน มีแนวโน้มอย่างไร และการลงทุนในหุ้นให้จำไว้เสมอว่า มันคือการลงทุนระยะยาว เพราะระยะสั้นราคามันผันผวนได้ตลอดเวลา มัวแต่มานั่งจ้องพอร์ตแล้วมีอาการทุกครั้งที่หุ้นขึ้นหรือลง เป็นบ้าแน่ จากนั้นอารมณ์จะอยู่เหนือเหตุผลทันที และสุดท้าย หากซื้อหุ้นตัวไหนแล้วขาดทุนตลอด ควรหยุด แล้วมานั่งพิจารณาใหม่ ว่าวิธีการลงทุนของคุณยังใช้ได้อยู่หรือไม่ ต้องศึกษาอะไรเพิ่มเติม
ที่จริงมีอีกหลากหลายสารพัดเหตุผลที่คนลงทุนแล้วมักไม่ได้ผลตามที่ต้องการ เพราะเขาบอกกันเสมอว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ และหากศึกษาข้อมูลมาดีแล้ว มีปัจจัยสนับสนุนธุรกิจในระยะยาว ก็ไม่ต้องกังวลกับราคาหุ้นในระยะสั้น เพื่อป้องกันการตื่นตูมแล้วซื้อขายผิดจังหวะ
การลงทุนระยะยาวจะให้ผลตอบแทนดีกว่าระยะสั้นเสมอ เซียนหุ้นทั้งหลายในโลกนี้เขาก็ทำแบบนั้นกันทั้งสิ้น ไม่เชื่อลองปรับแนวคิดใหม่ ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ แล้วลองถือยาว ๆ ดู เอาแค่ซื้อแล้วถือสัก 6 เดือน หรือ 1 ปี ก็เห็นผลชัดเจนแล้ว…
ไม่เชื่อลองดูหุ้น 5 เด้ง 10 เด้งในตลาดสิ หากถือวันนี้ช่วงเดียวปีก่อนแล้วปล่อยมาถึงตอนนี้ กำไรบานเลยนะคุณ แต่หากลงสนามเก็งกำไรระยะสั้น บอกเลยว่า เจ็บ…
เรียบเรียงบทความโดย boarddung.com
Scroll to Top