แต่ถ้าเราเลือกระบุผู้ขับขี่ไปแล้ว มีเพื่อนหรือญาติมาขอยืมรถเราไปขับ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันยังคุ้มครองค่าเสียหายตามหน้าตารางกรมธรรม์อยู่ แต่ทางผู้เอาประกันจะต้องร่วมจ่ายค่าความเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท สำหรับทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และ 6,000 บาท สำหรับความเสียหายรถยนต์ของเราเองที่เกิดจากการชน ดังนั้น ถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เราจะต้องจ่ายเงินอย่างน้อย 8,000 บาท ในการร่วมรับผิดชอบความเสียหายระหว่างเรากับบริษัท แต่ถ้าใช้รถร่วมกันหลายคน แนะนำให้ทำประกันรถยนต์แบบไม่ต้องระบุชื่อผู้ขับขี่จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
• ค่าความเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ (Deduct) มี 2 ลักษณะ คือ ตามความสมัครใจของผู้เอาประกันที่ต้องการจ่ายค่าเบี้ยถูกลง และกรณีที่เรามีประวัติการเคลมหลายครั้งแล้ว บริษัทประกันอาจจะขอให้เราร่วมจ่ายด้วย ยกตัวอย่างกรณีที่มีค่าความเสียหายส่วนแรก (Deduct) 3,000 บาท หมายความว่า ค่าเบี้ยประกันของเราถูกลงไป 3,000 บาท แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุหากเราเป็นฝ่ายผิด แสดงว่าเราสมัครใจรับความเสียหายส่วนแรก 3,000 บาท ร่วมกับบริษัทประกัน
• ค่าความเสียหายแบบไม่มีคู่กรณีภาคบังคับ (Excess) จะเกิดขึ้นเมื่อมีอุบัติเหตุแต่ไม่มีคู่กรณี เช่น ถูกชนแล้วหนี หรือถูกกรีดรถ เป็นต้น เราจะต้องร่วมรับผิดชอบในค่าความเสียหายส่วนแรกที่ 1,000 บาทต่อ 1 เหตุการณ์ แต่กรณีที่เราขับรถชนรั้วหรือเสาไฟฟ้า หากเราสามารถระบุที่เกิดเหตุได้ชัดเจน ในกรณีนี้เราไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าความเสียหายส่วนแรก (Excess) เพราะถือว่าเรามีคู่กรณี ถึงแม้ว่าคู่กรณีจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตก็ตาม
การซ่อมห้าง เหมาะสำหรับรถใหม่และรถที่มีอายุการใช้งานน้อยกว่า 7 ปี แต่จะมีค่าเบี้ยประกันที่สูง สำหรับรถซ่อมห้างจะมีศูนย์บริการที่มีเครื่องมือที่ทันสมัยและครบวงจร รวมถึงอะไหล่เป็นของแท้ และมีการประกันงานซ่อม สำหรับการซ่อมห้างจะมีการระบุสาขาของศูนย์บริการที่รับซ่อม ดังนั้น เราควรตรวจสอบสาขาของศูนย์บริการจากบริษัทประกันภัยก่อนตัดสินใจ เน้นศูนย์ซ่อมที่สะดวกใกล้บ้านหรือที่ทำงาน และมีหลายสาขาให้เลือกเข้ารับบริการ
การซ่อมอู่ เหมาะสำหรับรถที่มีอายุการใช้งานมานาน และค่าเบี้ยมักจะถูกกว่าซ่อมห้างประมาณ 30% แนะนำให้เลือกอู่ประกันภัยในเครือของบริษัทประกันที่เราสะดวกในการนำรถเข้าซ่อม ซึ่งเป็นอู่ที่มีสัญญาเรียกเก็บเงินค่าซ่อมกับบริษัทประกัน เพราะถ้าเรานำรถไปซ่อมอู่นอกหรืออู่ทั่วไป ข้อควรระวังคือ หากอู่ตีราคาสูงกว่าที่บริษัทประกันกำหนดไว้ เราจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในค่าใช้จ่ายส่วนต่างนั้นเอง
สำหรับการซ่อมห้างหรือซ่อมอู่นั้น หากเราเป็นฝ่ายถูก เราสามารถเรียกร้อง “ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ” ได้จากบริษัทประกันคู่กรณีในขณะที่เรานำรถเข้าซ่อม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการเดินทางระหว่างที่ไม่มีรถใช้ โดยสามารถ เรียกร้องขั้นต่ำได้วันละ 500 – 1,000 บาท ตามแต่ประเภทรถยนต์
ดังนั้น หากเราต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ แนะนำให้ทำประกันรถยนต์กับตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัยหรือบริษัทที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือ หรือติดต่อได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันมีมิจฉาชีพจำนวนมากที่แอบอ้างโทรติดต่อลูกค้าและส่งมอบกรมธรรม์ปลอม โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์จริงเราไม่สามารถเคลมสิทธิ์ต่างๆ ได้